วันอาทิตย์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2556

การเข้ามาขยายอิทธิพลในเอเชีย ของฮอลันดา


ฮอลันดา

ประวัติศาสตร์โดยสังเขป ประมาณช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 1 เนเธอร์แลนด์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน และมีสันติภาพยาวนานต่อเนื่องเป็นเวลา 250 ปี ต่อมา เมื่อจักรวรรดิโรมันเสื่อมอำนาจลง ชนเผ่าเยอรมันนิกและเคลติก ได้เข้าไปครอบครองพื้นที่แถบนั้น
ในช่วงปี พ.ศ. 1906 – 2025 เนเธอร์แลนด์อยู่ภายใต้การปกครองของดยุคแห่งเบอร์กันดี และในศตวรรษที่ 16 เนเธอร์แลนด์ถูกปกครองโดยสเปน ต่อมาเจ้าชายวิลเลียมแห่งออเรนจ์และขุนนางจำนวนหนึ่ง ได้ก่อการปฏิวัติต่อสมเด็จพระราชาธิบดีฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน เพื่อเรียกร้องให้ประชาชนเนเธอร์แลนด์และได้สถาปนาสาธารณรัฐดัตช์และ สามารถนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรแตสแตนท์ได้ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2191 (ค.ศ. 1648) จึงได้มีการลงนามในสนธิสัญญามุนสเตอร์ เพื่อสงบศึกระหว่างเนเธอร์แลนด์และสเปน ซึ่งดำเนินมาถึง 80 ปี และถือเป็นการประกาศเอกราชของเนเธอร์แลนด์ด้วย
หลังจากได้ประกาศเอกราชจากจักรวรรดิสเปน ชาวดัตช์ได้ร่วมกันฟื้นฟูประเทศจนในที่สุดได้เข้ามาสู่ยุคทอง เช่นเดียวกับ สเปน โปรตุเกส และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นมหาอำนาจทาง ทะเลในการแสวงหาโอกาสทางการค้าในดินแดนต่างๆ ของโลก เนเธอร์แลนด์เป็นมหาอำนาจทางทะเลและเศรษฐกิจชั้นนำของยุโรปในเวลานั้น และกรุงอัมสเตอร์ดัมก็ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางการเงินของยุโรป จนมีนักเศรษฐศาสตร์หลายคนถือให้เนเธอแลนด์เป็นประเทศระบอบทุนนิยมประเทศแรกของโลก
ภูมิศาสตร์ของฮอลันดา
สภาพภูมิประเทศเป็นที่ราบกว้างใหญ่ พื้นที่ส่วนใหญ่เคยเป็นน้ำทะเลมาก่อนดังนั้นประเทศนี้จึงอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล มีเพียงทางตะวันออกเฉียงใต้ในเขตลิมเบิร์ก เท่านั้นสามารถพบเห็นเนินเขาได้ แม่น้ำไรน์ที่ไหลมาจากเยอรมนี เป็นแม่น้ำสายสำคัญของประเทศ เนื่องจากเป็นประเทศต่ำกว่าระดับน้ำทะเลจึงทำให้ต้องสร้างเขื่อน เพื่อไม่ให้นำทะเลไหลท่วมได้ เนื่องจากเนเธอร์แลนด์มีที่ตั้งอยู่ชายฝั่งทะเลเหนือ จึงได้รับอิทธิพลของกระแสน้ำอุ่นด้วย ทำให้ภูมิอากาศของประเทศอบอุ่นกว่าประเทศอื่นๆในยุโรป และมีฝนตกชุกในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง มากถึง 700 มิลลิเมตรต่อปี
การเข้ามาของฮอลันดาในเอเชีย


ฮอลันดาเป็นชาติที่มีความสามารถมากในการต่อเรือและการเดินเรือ ฮอลันดาซึ่งเดิมอยู่ใต้อำนาจของสเปน สามารถปลดแอกจากสเปนได้สำเร็จเมื่อ พ.ศ. ๒๑๑๑ จึงได้ทำการค้ากับประเทศต่างๆ ในยุโรปเหนือ โดยผ่านเมืองลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส จนกระทั่งเมื่อสเปนและโปรตุเกสประกาศว่าไม่ยอมให้ฮอลันดาทำการค้าขายด้วย ทำให้ฮอลันดาต้องเปลี่ยนทิศทางมายังหมู่เกาะเครื่องเทศ โดยมีจุดประสงค์ที่จะทำการค้าเครื่องเทศกับภูมิภาคเอเซีย ตะวันออกเฉียงใต้ไม่คิดที่จะทำการเผยแผ่คริสต์คาสนาเช่นเดียวกับสเปนและโปรตุเกส ฮอลันดาสนใจทางการค้ามากกว่าการเข้าปกครองดินแดนนั้น ๆ ฮอลันดามีบริษัทการค้ามากมายและ ใน พ.ศ. ๒๑๔๕ บริษัทการค้าของฮอลันดาประมาณ ๕๐ บริษัท ได้รวมตัวกันจัดตั้งบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา นับเป็นจุดเริ่มต้นของระบบอาณานิคมสมัยใหม่ที่อาศัยการค้าเป็นสำคัญ บริษัทเหล่านี้เป็นกึ่งราชการ มีอำนาจทางการค้า การเมือง การปกครอง การตัดสินใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ตลอดจนการทำสงครามและการทำสนธิสัญญา มีการสร้างป้อมปราการและมีกองทหารประจำบริษัท บริษัทของออลันดาได้เปรียบกว่าบริษัทของชาติคู่แข่งในเวลานั้น พ.ศ. ๒๑๖๒ ฮอลันดาได้ครอบครองเมืองปัตตาเวีย (เมืองจาร์กาตาในปัจจุบัน) ในเกาะชวา และใน พ.ศ. ๒๑๘๔ ได้เข้ายึดมะละกาของโปรตุเกส ต่อมาได้ขยายสถานีการค้าไปในเกาะชวา สุมาตรา หมู่เกาะโมลุกกะ เกาะบอร์เนียว เซลีเบส ตลอดจนแหลมมลายู

การที่มีอำนาจผูกขาดในหมู่เกาะอินดีสตะวันออก ในขณะที่ชาวพื้นเมืองรบพุ่งกันอยู่ได้เปิดโอกาสให้ฮอลันดาเข้าแทรกแซงกิจการภายในและขยายอิทธิพลของตนได้สะดวกขึ้น ต่อมาบริษัทเสื่อมลงเนื่องจากเกินการฉ้อโกงในบริษัท เจ้าหน้าที่ของบริษัททำการค้าขายส่วนตัวทำให้บริษัทขาดทุนและมีหนี้สินมาก รัฐบาลจึงยุบบริษัทและเข้าปกครองหมู่เกาะอินดีสตะวันออกโดยตรง
สาเหตุที่ทำให้อำนาจทางการค้าของฮอลันดาเสื่อม  มีดังนี้

     1. การเข้ามาขยายอิทธิพลของอังกฤษ

               ในปี ค.ศ.1818 เซอร์ แสตมฟอร์ดแรฟเฟิล ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลอังกฤษให้เป็นผู้ว่าการอาณานิคมของอังกฤษในเบนคูเลน แต่เนื่องจากบริเวณนี้ฮอลันดาผูกขาดทางการค้าอยู่ เซอร์แรฟเฟิลจึงคิดหาสถานที่ที่เหมาะสมเพื่อจัดตั้งสถานีการค้าแห่งใหม่และเพื่อคานอำนาจของฮอลันดา เขาได้ออกสำรวจและเดินทางถึงสิงคโปร์ในวันที่ 29 มกราคม 1819 เซอร์แรฟเฟิลพบว่าสิงคโปร์มีทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางการค้าของอังกฤษในภูมิภาคนี

2. ความเสื่อมของบริษัทอินเดียตะวันออกของฮอลันดา


            การแข่งขันทางด้านการค้าในยุโรป การขยายการค้าเกินกำลัง V.O.C. ขยายตัวทางการค้าเข้าไปใน จีน ญี่ปุ่น อินเดีย ทำให้มีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก การค้าในจีนขาดทุ่น ประกอบกับสินค้าเครื่องเทศลดความนิยมลง ความต้องการสิ่งทอ จากอินเดีย และ ใบชาจากจีนเพิ่มขึ้น แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงการปลูกพืชชนิดใหม่เช่นชา กาแฟ แทนการปลูกเครื่องเทศในหมู่เกาะชวา ตั่งแต่บันทัมถึงมาธะรัม จำกัดการเพาะปลูกเครื่องเทศให้น้อยลง คือ ให้ปลูกได้ครอบครัวละไม่เกิน ๕ ต้น ใครปลูกมากจะถูกจำคุก (ศิวพร ชัยประสิทธิกุล, ผศ., ๒๕๓๐ : ๘๐) แต่ก็ไม่สามารถช่วยเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทได้
                การผูกขาดการค้า ดัชไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ ไม่สนใจสวัสดิการของชาวพื้นเมือง เอารัดเอาเปรียบชาวพื้นเมือง ให้ค่าจ้างแรงงานพื้นเมืองถูก ให้ราคาสินค้าต่ำ ขายสิ้นค้าอุปโภคบริโภคให้ชาวพื้นเมืองแพงการผูกขาดทางการค้าไม่ได้ผลเท่า ที่ควรเนื่องจากมีอังกฤษและพ่อค้าชาวอาหรับเป็นคู่แข่ง อังกฤษและฝรั่งเศสหันมาส่งเสริมคนพื้นเมืองในอาณานิคมของตน เพาะปลุกค้าขายแข่งกับฮอลันดา ทำให้รายได้ของฮอลันดาลดลง ผลจากควบคุมการผลิตไม่ให้ผลผลิตมากเกินไป สิ้นค้าเครื่องเทศลดความนิยมลง การผลิตต้องถูกควบคุมโดย V.O.C. กดราคาสินค้าให้ต่ำ คนพื้นเมืองไม่พอใจต่อการบังคับการเพาะปลูก ต้องทำงานหนัก ไม่มีเสรีภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจ จึงเกิดการก่อกบฏ อีกทั้งเกิดปัญหาโจรสลัด และการลักลอบขายสินค้า ดัชต้องเสียเงินอย่างมากในการปราบปราม

   3. การถูกฝรั่งเศสขัดขวาง

      เช่น ในปี ค.ศ.  ๑๖๘๕ ฟอลคอนไม่ยอมให้ชาวฮอลันดาสร้างสถานีการค้าเป็นตึกที่นครศรีธรรมราช แต่ยอมให้สร้างด้วยไม้เป็นการชั่วคราว จากอุปสรรคประการต่างๆ ที่ขัดขวางการค้าขายของฮอลันดา ทำให้ฮอลันดาค่อยๆ ถอนตัวทางการค้าในประเทศสยามตั้งแต่นั้นมา   การค้าของฮอลันดาก็เสื่อมโทรมลงตามลำดับ จนกระทั่งอยุธยาเสียแก่พม่าในปี ค.ศ. ๑๗๖๗ เป็นเหตุให้การค้ากับชาวตะวันตกได้ยุติลงโดยสิ้นเชิง 
 4. การปฏิวัติอุตสาหกรรม

        ความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจของฮอลันดาได้สิ้นสุดลงในระหว่างศตวรรษที่ ๑๘ ทั้งนี้ ก็เนื่องมาจากเหตุผลหลายประการ  อาจเป็นเพราะความก้าวหน้าที่ดําเนินมานั้นได้หยุดชะงักลง หรือเสื่อมทรุดลง  แต่ว่าส่วนใหญ่คงเนื่องมาจากประเทศอื่นพัฒนารุดหน้าตามมาทันโดยเลียนแบบทางเทคนิคด้านต่างๆ แล้วในที่สุดก็เลิกซื้อสินค้า  เลิกใช้บริการ เลิกใช้เรือ  หรือเงินทุนของฮอลันดา  จุดอ่อนอันสําคัญของฮอลันดาซึ่งไม่มีวัตถุดิบที่หาได้ภายในประเทศได้ทําให้ฮอลันดาไม่สามารถที่จะดํารงฐานะเป็นผู้ผลิตสินค้าใดๆ ได้เป็นการถาวรตลอดไป  การที่ต้องอาศัยสั่งวัตถุดิบจากต่างประเทศเพื่อแปรสภาพแล้วส่งออกไปจําหน่ายอีกนั้น ทําให้ฐานะทางเศรษฐกิจของฮอลันดาไม่มั่นคงแน่นอนและตกอยู่ในฐานะลําบาก  เมื่อประเทศที่เคยส่งวัตถุดิบให้ หรือที่เคยซื้อสินค้าจากฮอลันดากลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมมีฐานะเข้มแข็งขึ้น  หรือประเทศดังกล่าวกลายเป็นศัตรูทางการเมืองกับฮอลันดา  หนึ่ง ในด้านการต่อเรือและการเดินเรือ  ประเทศอื่นก็มีความรู๎ความสามารถขึ้น  และในด้านการเงินการธนาคาร  ชาวฮอลันดาก็ไม่อาจทําการผูกขาดได้เช่นแต่ก่อน  บุคคลที่เคยอาศัยชาวฮอลันดาเป็นคนกลาง  ก็สามารถทําการติดต่อกันได้โดยตรง  ในที่สุดฐานะของฮอลันดาที่เคยได้เปรียบชาติอื่นในด้านต่างๆ ก็เริ่มลดลงและความได้เปรียบดังกล่าวก็เริ่มหลุดลอยไปทีละอย่างสองอย่าง  อีกประการหนึ่ง ความผิดพลาดอย่างฉกรรจ์บางอย่างของฮอลันดา  และการที่มีแนวความคิดหรือทรรศนะตายตัว  โดยไม่ยอมปรับเปลี่ยนตนให้ทันต่อการเปลี่ยนผันของโลก เป็นส่วนสำคัญทำให้อำนาจฮอลันดาเสื่อมลง







ขอบคุณข้อมูลจาก 
http://th.wikipedia.org/wiki  . ประเทศเนเธอร์แลนด์





ไม่มีความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น